สกสค.จ.เพชรบูรณ์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ และธนาคารออมสิน พร้อมด้วย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ร่วมขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 นายบุญโชค พลดาหาญ ผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค.จังหวัดเพชรบูรณ์ ไปร่วมประชุมชี้แจง แนวทางการรวมหนี้และแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งจัดโดยสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด มีผู้ลงทะเบียนเข้ารับฟัง ร่วม 300 คน ณ หอประชุม สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด
โดยมีนายณรงค์ จันทร์เชื้อ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด เป็นประธานเปิดและปิดการประชุม มี นางวิไลพร เย้ยกระโทก ผู้จัดการศูนย์ควบคุมและบริหารหนี้ ธนาคารออมสิน เขตจังหวัดเพชรบูรณ์ มาเป็นวิทยากร
ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางในการพิจารณาดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยสรุป ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จะดำเนินการคือ
1.รับบัญชีรายชื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เป็นลูกหนี้จากธนาคารออมสิน มาพิจารณาดำเนินการตามความสมัครใจของลูกหนี้ และความพร้อม ตามหลักเกณ์ของสหกรณ์ฯ ซึ่งมีรายชื่ออยู่ 1,800 กว่าบัญชี
โดยนำเงินดอกเบี้ยต่ำที่ได้รับจากธนาคารออมสิน ปล่อยกู้กับสมาชิกที่เป็นลูกหนี้ธนาคารออมสินครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินที่ได้รับ และอีกครึ่งหนึ่งจะให้สมาชิกอื่น ที่ไม่ใช่ลูกหนี้ธนาคารออมสินกู้ได้
2 กำหนดหลักเกณฑ์ แก้ไขข้อบังคับต่าง ๆ ของสหกรณ์ กำหนดคุณสมบัติ ของผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ กำหนดวงเงินเพดานสูงสุดที่จะให้กู้ได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.3 ล้านบาท อาจขยายเพดานสูงสุด เป็นไม่เกิน 6 ล้านบาท ชยายเพิ่มงวดการชำระหนี้ และเมื่อหักหนี้แล้วต้องมีเงินเดือนเหลือร้อยละ 30 ขึ้นไป มีผู้ค้ำประกันและทำประกันสินเชื่อ และกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้เหมาะสม อาจจะไม่เกินร้อยละ 4 บาท/ปี เพราะธนาคารปล่อยกู้ให้สหกรณ์ร้อยละ 1.80 บาท/ปี เพื่อเข้าที่ประชุมให้คณะกรรมการสหกรณ์ฯพิจารณา และเสนอนายทะเบียนให้ความเห็นชอบต่อไป
3.แต่งตั้งผู้รับผิดชอบ และทำโครงการรองรับ ประสานการดำเนินงานกับธนาคารออมสิน
4 แจ้งสมาชิกผู้ที่มีรายชื่อตามบัญชีรายชื่อลูกหนี้ของธนาคารออมสิน ที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ที่เข้าเกณฑ์ตามโครงการ พิจารณาให้กู้เงินตามเกณฑ์และตามศักยภาพของลูกหนี้
5 ร่วมทำข้อตกลงในการดำเนินการร่วมกัน (MOU) ระหว่างสหกรณ์ฯ และธนาคารออมสิน
6 มีการส่งเสริมการทำอาชีพเสริม การดำรงชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ มีวินัยทางการเงิน ประหยัดและออม เป็นต้น
ทางฝ่ายธนาคารออมสิน รับผิดชอบดำเนินการ
1 ส่งบัญชีรายชื่อพร้อมหลักฐานการเป็นหนี้ของลูกหนี้ธนาคารออมสิน ที่เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้กับสหกรณ์ฯ
2 ร่วมหารือและให้คำแนะนำในการดำเนินการตามโครงการรวมหนี้และแก้ปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา กับทางสหกรณ์ฯ
3 ประสานกับหน่วยบังคับบัญชาผู้มีอำนาจของธนาคารออมสิน ในการอนุมัติวงเงินกู้และดอกเบี้ยต่ำ ไม่เกินร้อยละ 1.80 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ ไม่น้อยกว่า 5 ปี ตามโครงการฯ และให้ยกดอกเบี้ยที่ค้างชำระของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมด ให้กับลูกหนี้ (ซึ่งปัจจุบัน ลูกหนี้ดังกล่าว มี 1,800 กว่าบัญชี เป็นหนี้เงินต้นรวม 1,320 ล้านบาท ดอกเบี้ยที่ค้างชำระ 147 ล้านบาท)
โดยขออนุมัติในรอบแรกไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท โดยเงินกู้ตามโครงการนี้ ใช้รวมหนี้ตามบัญชีรายชื่อลูกหนี้ของธนาคารออมสิน 100 ล้านบาท และนำไปบริหารจัดการอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ลูกหนี้ของธนาคาร 100 ล้านบาท
4 ร่วมทำข้อตกลง (MOU) ในแนวทางปฏิบัติร่วมกับ ระหว่างธนาคารออมสิน กับสหกรณ์ฯ
ขอชื่นชมและขอบคุณท่านณรงค์ จันทร์เชื้อ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพชรบูรณ์ จำกัด คณะที่ปรึกษา และคณะกรรมการสหกรณ์ฯ ทุกท่าน ที่เห็นความสำคัญที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินครู และดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยการสนับสนุนจากธนาคารออมสิน
ในนามสำนักงาน สกสค. จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกท่าน ครับ
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2194946737560707&id=100011362074529&mibextid=Nif5oz